fbpx

เหตุผลในการซื้อขาย Forex

เนื้อหาในบทความนี้

2. เหตุผลในการซื้อขาย Forex

ข้อดีของการซื้อขาย Forex

ในการซื้อขาย Forex มีข้อดีมากมาย มาดูเหตุผลที่ตลาดForex ได้รับเลือกจากผู้คนมากมายกัน
ไม่มีค่าธรรมเนียม

ไม่มีค่าธรรมเนียม เช่น ค่าธรรมเนียมการชำระ, ค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน, ค่าธรรมเนียมภาษีของรัฐบาลและค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งโบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะแสวงหาผลกำไรด้วย “สเปรดการซื้อ/ขาย”

ไม่มีคนกลาง

การซื้อขายสกุลเงิน Spot ไม่จำเป็นต้องมีตัวกลางและสามารถซื้อขายได้โดยตรงกับตลาดที่มีราคาของสกุลเงินคู่นั้นๆ

lot ไม่คงที่

ในตลาดฟิวเจอร์ จำนวน lot ของสัญญาการซื้อขายขึ้นอยู่กับการแลกเปลี่ยนของตัวเครื่องมือนั้นๆ เช่น จำนวน lot มาตรฐานของผลิตภัณฑ์เงิน คือ 5,000 ออนซ์ แต่ในตลาดForex คุณสามารถกำหนด lotกับปริมาณคำสั่งได้ด้วยตนเอง ซึ่งเหตุผลนี้ทำให้สามารถเข้าเทรดในตลาดได้ด้วยเงินทุนจำนวนน้อย

ค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมต่ำ

ค่าใช้จ่ายในการซื้อขาย (สเปรดการซื้อ/ขาย) ปกติมักต่ำถึง 0.1% ภายใต้สภาวะตลาดปกติ ในโบรกเกอร์ที่ขนาดใหญ่สเปรดอาจต่ำถึง 0.07% แน่นอนว่าสิ่งนี้สามารถมีความต่างกันของเลเวอเรจได้ ซึ่งเราจะพูดเนื้อหาเพิ่มเติมในส่วนนี้ในภายหลัง

ตลาด 24 ชั่วโมง

ไม่จำเป็นต้องรอเวลาเปิดตลาด โดยตลาดออสเตรเลียจะเปิดทำการในช่วงเช้าวันจันทร์ ช่วงบ่ายตลาดนิวยอร์กเปิดอย่างนี้ซ้ำๆ ตลาด Forex จึงไม่เคยหลับใหล ตลาด Forex เสนอสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ดีมาก สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการซื้อขายนอกเวลา เนื่องจากไม่ว่าจะในช่วงเช้า, เที่ยง, เย็น, ช่วงทานอาหารหรือเวลานอน คุณก็สามารถเลือกเขตเวลาที่คุณต้องการซื้อขายได้

ตลาดที่ไม่สามารถผูกขาดได้

ตลาด Forex ต่างประเทศนั้นมีผู้เข้าร่วมจำนวนมหาศาล ดังนั้น กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง (แม้แต่ธนาคารกลาง) จึงไม่สามารถควบคุมราคาตลาดเป็นเวลานานได้

เลเวอเรจ

ตัวอย่างเช่น สมมุติว่าโบรกเกอร์ Forex หนึ่ง เสนอเลเวอเรจ 50 เท่า ซึ่งหมายความว่า คุณสามารถซื้อหรือขายสกุลเงินมูลค่า $2,500 จากการฝากเงิน $50 ได้ เช่นเดียวกับ กรณีที่การฝากเงิน $500 สามารถเทรดได้ด้วยเงิน $25,000 วิธีนี้สามารถหาเงินจำนวนมากได้ด้วยเงินจำนวนเล็กน้อยก็จริงแต่โปรดจำไว้ว่าเลเวอเรจมีความเสี่ยงเช่นกัน ดังนั้นถ้าหากไม่มีการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม เลเวอเรจที่อัตราสูงก็สามารถทำให้เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ได้เช่นเดียวกับการได้ผลกำไรเช่นกัน

มีสภาพคล่องสูง

เนื่องจากตลาด Forex มีขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูง ในส่วนสภาพคล่องสูงมีข้อได้เปรียบ เนื่องจากในสภาวะตลาดปกติมีคนที่ต้องการที่จะอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามของการซื้อขายที่ต้องการเสมอและสามารถซื้อขายได้ทันทีภายในคลิกเดียว คุณยังสามารถตั้งค่ากำหนดตำแหน่งของคุณได้อัตโนมัติเมื่อคุณไปถึงระดับกำไรที่ต้องการหรือเมื่อตลาดเคลื่อนไหวไปในทางตรงกันข้าม(คำสั่งหยุดการขาดทุน)กับความคาดหวังของคุณ

เกณฑ์ในการเข้าร่วมต่ำ

คุณอาจคิดว่าคุณต้องการเงินจำนวนมากเพื่อเริ่มการซื้อขาย Forex แต่จริงแล้วถ้าเปรียบเทียบกับหุ้นหรือการซื้อขายล่วงหน้าแล้วไม่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากผลิตภัณฑ์และบัญชีที่หลากหลาย โบรกเกอร์ Forex ออนไลน์จึงสามารถยอมรับคำสั่งเล็กๆและซื้อขายอย่างน้อย $25 ได้
กล่าวคือ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเปิดบัญชีด้วยจำนวนเงินขั้นต่ำ แต่คนทั่วไปที่ไม่มีเงินทุนในการซื้อขายจำนวนมากสามารถเริ่มต้นการซื้อขายได้

สามารถใช้ฟรีได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม!

โบรกเกอร์ Forex ออนไลน์ส่วนใหญ่มี “บัญชีเดโม่” ที่คุณสามารถใช้เพื่อฝึกการซื้อขายหรือฝึกฝนทักษะการซื้อขายของคุณพร้อมทั้งใช้บริการกราฟกับข่าว Forex ได้แบบเรียลไทม์

บัญชีเดโม่สามารถใช้ฟรีได้ทั้งหมด!

บัญชีเดโม่นิยมใช้มากในบุคคลที่ต้องการฝึกเทคนิคการเทรดด้วย “เงินปลอม” ก่อนทำการเปิดบัญชี Live เทรดจริงหรือคนที่ไม่มีอิสระทางการเงิน

ต่อไปเรามาเปรียบเทียบข้อดีของตลาด Forex กับตลาดหุ้นกันดู!

Forexกับ หุ้น

ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กครอบคลุมหุ้นประมาณ 2,800 หุ้นและ Nasdaq อีก 3,100 หุ้น ดังนี้ฉันควรทำการซื้อขายกับฝั่งไหนดีมีการซื้อขายสกุลเงินมากมายในการซื้อขาย Forex แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ทำการซื้อขาย 4 คู่สกุลเงินหลัก การเห็นคู่สกุลเงิน 4 คู่นั้นง่ายกว่าการดูแลนับพันหุ้นหรือไม่?นี่เป็นเพียงหนึ่งในจุดที่ตลาด Forex มีความได้เปรียบเหนือตลาดหุ้น ด้านล่างเป็นข้อได้เปรียบอื่นๆ
ตลาด 24 ชั่วโมง

ตลาด Forex เป็นตลาดที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงไม่หยุด โบรกเกอร์ส่วนใหญ่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันอาทิตย์ EST ถึงเวลา 17:00 น. ถึงวันศุกร์ ETS 17 :00 น. คุณสามารถซื้อขายในตลาดอเมริกา เอเชียและยุโรป เพื่อให้คุณสามารถซื้อขายตามตารางเวลาของคุณเอง

ค่าธรรมเนียมต่ำหรือไม่มีค่าธรรมเนียม

โบรกเกอร์ Forex ส่วนใหญ่ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมหรือค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเพิ่มเติม สเปรดที่แคบและโปร่งเพียงพอ ต้นทุนการซื้อขาย Forex นั้นต่ำกว่าตลาดการซื้อขายอื่นๆ โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ได้รับกำไรจากการ “สเปรดการซื้อ/ขาย”

คำสั่งที่รวดเร็ว

เมื่อส่งคำสั่งจะสามารถทำได้ทันทีภายใต้ภาวะตลาดปกติ และยังได้ราคาที่คุณคิด ดังนั้น เมื่อคลิกที่ราคาไหนก็จะได้ราคานั้น เพราะว่าตลาดฟอเร็กซ์เป็นระบบเรียลไทม์ คุณก็จะได้ราคาที่คุณอยากได้ที่แสดงในหน้าจอโปรแกรมเทรด แต่ว่าถ้าเกิดในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนมากออเดอร์อาจจะมีการล่าช้าบ้าง ทำให้คุณไม่ได้ราคาที่คุณคิด

สามารถซื้อขายได้ทั้งสองฝั่ง ซื้อ/ขาย

เทรดเดอร์ขายหรือซื้อ ไม่ว่าทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาดจะมีโอกาสในการซื้อขาย เนื่องจากการซื้อขายสกุลเงินเป็นการซื้อขายและสกุลเงินอยู่เสมอจึงไม่มีอคติเชิงโครงสร้างให้กับตลาด ดังนั้น โอกาสในการซื้อขายจะเท่ากันทั้งในตลาดขึ้นและลง

ไม่มีคนกลาง

การแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์มีข้อดีมากมายสำหรับเทรดเดอร์แต่หนึ่งในปัญหา คือ การมีส่วนร่วมของคนกลางระหว่างเทรดเดอร์และผู้ซื้อหลักทรัพย์หรือเครื่องมือการซื้อขายคู่สัญญาจะต้องชำระค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรม สิ่งนี้เป็นหนึ่งในค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่าย

การซื้อขาย Forex นั้นมีการกระจายอำนาจ ดังนั้น ราคาอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละโบรกเกอร์ การแข่งขันระหว่างโบรกเกอร์นั้นดุเดือดและเทรดเดอร์ Forex สามารถรับข้อเสนอที่ดีที่สุดด้วยการเข้าถึงที่เร็วขึ้นและลดต้นทุน

โปรแกรมการซื้อ/ขาย ไม่จำกัดตลาด

ตลาดหุ้นมีความอ่อนไหวต่อการซื้อขายเงินจำนวนมาก

ในการซื้อขาย Forex ตลาด Forex มีขนาดใหญ่มากจนไม่น่าเป็นไปได้ที่กองทุนหรือธนาคารจะควบคุมสกุลเงินเฉพาะธนาคาร, Hedge Fund, รัฐบาล, การแลกเปลี่ยนสกุลเงินและเจ้าของสินทรัพย์เป็นเพียงส่วนเล็กๆของตลาด Forex สภาพคล่องจำนวนมาก

นักวิเคราะห์และโบรกเกอร์ไม่มีอิทธิพลต่อตลาด

คุณได้ยินหรือไม่ว่านักวิเคราะห์บางคนในหุ้นอินเทอร์เน็ตและโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงถูกกล่าวหาว่าให้คำแนะนำ “ซื้อ” เมื่อราคาหุ้นตก นี่เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้บ่อยครั้งและรัฐบาลมีมาตรการต่อต้านกิจกรรมประเภทนี้แต่ก็ยังไม่ข่าวประเภทนี้อยู่ไม่ได้หายไป

ในฐานะตลาดหลักการซื้อขาย Forex สร้างผลกำไรให้กับธนาคารทั่วโลกนับพันล้านดอลลาร์สหรัฐและแยกออกจากตลาดโลกไม่ได้ โดยนักวิเคราะห์การซื้อขาย Forex มีผลเพียงเล็กน้อยต่ออัตราแลกเปลี่ยน

ข้อดีForexหุ้น
ตลาดเปิด 24 ชั่วโมงYESNo
ค่าธรรมเนียมต่ำหรือไม่มีค่าธรรมเนียมYESNo
การดำเนินการตามคำสั่งของตลาดทันที(Instant Execution)YESNo
ประมูลเมื่อตลาดปิดตัวลงYESNo
ไม่มีคนพ่อค้าคนกลางYESNo
ไม่มีการจัดการตลาดYESNo

การเปรียบเทียบระหว่าง Forex กับหุ้นให้ผลกำไร Forex ที่ยอดเยี่ยม การเปรียบเทียบกับการซื้อขายล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์คืออะไร?

Futures กับ Forex

ตลาด Forex มีข้อเปรียบเหนือตลาดฟิวเจอร์เช่นเดียวกับตลาดหุ้น ข้อดีคือ คุณสามารถตรวจสอบได้ด้านล่างนี้
สภาพคล่อง

ตลาด Forex ในหนึ่งวันมีการซื้อขาย 5.3 ล้านล้านเหรียญและเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องและใหญ่ที่สุดในโลก ตลาดฟิวเจอร์มีการซื้อขายเพียงเล็กน้อยโดยมีมูลค่าการซื้อขาย 30 พันล้านเหรียญต่อวัน

ตลาดฟิวเจอร์ไม่สามารถแข่งขันกับตลาด Forex ได้ เนื่องจากมีสภาพคล่องค่อนข้างจำกัด

ตลาด Forex มีสภาพคล่องอยู่เสมอด้วยตำแหน่งน้อยมาก ไม่มีคำสั่งซื้อย้อนกลับไม่มีการเลื่อนหลุดและคุณสามารถชำระคำสั่งซื้อได้ทุกราคา ยกเว้นในสภาวะตลาดที่ไม่ปกติอย่างมากเท่านั้น

ตลาดเปิด 24 ชั่วโมง

ตั้งแต่ EST เปิดในซิดนีย์เวลา 17:00 น. ในวันอาทิตย์การซื้อขายเริ่มต้นที่ 19:00 น. ในโตเกียวจากนั้นที่ 03:00 น.ในลอนดอน และสุดท้ายนี้ตลาดนิวยอร์กเปิดเวลา 08:00 น. และ 16:00 น. ตลาดซิดนีย์จะเริ่มต้นอีกครั้งก่อนการซื้อขายในนิวยอร์กจะปิด ดังนั้น ตลาดจึงไม่ถูกตัดเป็นเวลา 24 ชั่วโมง

ด้วยเหตุนี้เทรดเดอร์สามารถซื้อขายและตอบสนองต่อข่าวดีและข่าวร้าย หากตลาดซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐอเมริกาปิดทำการและคุณได้รับข้อมูลสำคัญจากสหราชอาณาจักรหรือญี่ปุ่นคุณสามารถคาดหวังได้ว่าตลาดดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อตลาดในวันถัดไป (เนื่องจากในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์มีกลางคืนจึงทำให้มีสภาพคล่องต่ำกว่าตลาด Forex)

ค่าธรรมเนียมต่ำหรือไม่มีค่าธรรมเนียม

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีโบรกเกอร์จำนวนมากขึ้นที่ใช้การสื่อสารโทรคมนาคมซึ่งได้รับความนิยมให้กับโบรกเกอร์ที่ให้บริการ อย่างไรก็ตามมันเป็นจำนวนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับการจ่ายเงินในการซื้อขายล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ ในปีที่ผ่านมาการแข่งขันระหว่างโบรกเกอร์มีความรุนแรงซึ่งทำให้การซื้อขายในราคาสูงสุดและค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำมาก

มีราคาแน่นอน

ในตอนทำการซื้อขาย Forex สามารถทำการซื้อขายราคาที่มั่นใจและรวดเร็ว ในทางกลับกันสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าและตลาดหุ้นมีสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ไม่ได้ราคาที่แน่นอนและรวดเร็ว แม้จะมีการถือกำเนิดของการซื้อขายอิเล็กทรอนิกส์และอัตราการรับประกันที่แน่นอนแต่ราคาคำสั่งซื้อขายไม่แน่นอน ซึ่งส่วนใหญ่ราคาที่โบรกเกอร์เรียกแทนการซื้อขายครั้งสุดท้าย แต่การซื้อขายไม่จำเป็นต้องดำเนินการในราคานั้น

ความเสี่ยงจำกัด

ความเสี่ยงจำกัดมีการจำกัดตำแหน่งสำหรับเทรดเดอร์ทั้งหลายเพื่อจำกัดความเสี่ยงของพวกเขา หมายเลขนี้ถูกตั้งค่าตามสัดส่วนของยอดเงินในบัญชีของเทรดเดอร์ (สำหรับตลาด Forex มีแพลตฟอร์มที่สร้าง Margin call โดยอัตโนมัติเมื่อ Margin [Maintenance margin rate]ที่ต้องการในบัญชีเกินเงินที่มีอยู่)

ในช่วงสภาวะตลาดปกติ position ที่เปิดทั้งหมดจะถูกปิดทันที (ในสภาวะตลาดที่รวดเร็วนั้น position ของคุณอาจถูกปิดเกิดระดับ stop loss)

ในตลาดฟิวเจอร์ส สถานะของคุณอาจถูกชำระความสูญเสียมากกว่าที่คุณมีในบัญชีของคุณและคุณจะต้องรับผิดชอบต่อการขาดดุลที่เกิดขึ้นในบัญชี

ข้อดีForexผลิตภัณฑ์ฟิวเจอร์ส
ตลาดเปิด 24 ชั่วโมงYESNo
ค่าธรรมเนียมต่ำหรือไม่มีค่าธรรมเนียมYESNo
เลเวอเรจสูงYESNo
มีราคาแน่นอนYESNo
ความเสี่ยงจำกัดYESNo

เมื่อเปรียบเทียบการซื้อขายฟิวเจอร์สกับการซื้อขาย Forex ข้อดีของการซื้อขาย Forex นั้นมีมากมาย

โครงสร้างตลาด Forex

เพื่อเปรียบเทียบกับโครงสร้างตลาดอื่น ก่อนอื่นให้ดูที่ตลาดหุ้นที่เราคุ้นเคยก่อน โครงสร้างของตลาดหุ้น มีดังนี้2 preschool 04 img01

สาระสำคัญตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่จะผูกขาดมาก เนื่องจากทุกการซื้อขายต้องผ่าน Exchangeและผู้เชี่ยวชาญสามารถควบคุมราคาได้ ดังนั้น ราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างง่ายดายเพื่อประโยชน์ของ Exchangeไม่ใช่เทรดเดอร์ ซึ่งมันเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร?ในตลาดหุ้นผู้เชี่ยวชาญต้องปฏิบัติตามคำสั่งซื้อขายของลูกค้า สมมุติว่ามีจำนวนผู้ขายมากกว่าจำนวนผู้ซื้อ ผู้เชี่ยวชาญนั้นจะเหลือหุ้นที่ไม่สามารถขายให้ผู้ซื้อได้เพื่อป้องกันปัญหานี้ผู้เชี่ยวชาญสามารถขยายสเปรดเพิ่มต้นทุนการทำการซื้อขายและป้องกันไม่ให้ผู้ขายเข้าสู่ตลาด กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ ผู้เชี่ยวชาญสามารถจัดการใบเสนอราคาที่จัดหาได้
ตลาด Forex กระจายอำนาจ

ตลาด Forex แตกต่างจากการซื้อขายหุ้นหรือการซื้อขายฟิวเจอร์ส ไม่จำเป็นต้องผ่านการแลกเปลี่ยนกลาง เช่น ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก เนื่องจากในตลาด Forex เป็นไม่ได้มีราคาเดียวสำหรับคู่สกุลเงินนั้นและราคาจะแตกต่างกันไปตามแต่ละโบรกเกอร์

2 preschool 04 img02

มันอาจจะตกใจในตอนแรก แต่นี่เป็นโครงสร้างที่ทำให้ตลาดการซื้อขาย Forex ดีที่สุด ตลาดมีขนาดใหญ่มากและการแข่งขันระหว่างโบรกเกอร์นั้นรุนแรงมากจึงทำให้สามารถทำการซื้อขายได้ด้วยสภาพเเวดล้อมและราคาที่ดีที่สุดเสมอข้อดีอีกอย่างหนึ่ง คือ คุณสามารถซื้อขายได้ทุกที่ทุกเวลา
ระดับขั้นบันได Forex

ถึงแม้ตลาด Forex มีการกระจายอำนาจแต่ก็ไม่ง่ายและยุ่งยาก ผู้เข้าร่วมตลาด Forex มีการจัดระเบียบในรูปแบบขั้นบันได เพื่อความเรียบง่ายดูเหมือนภาพด้านล่างนี้

2 preschool 04 img03

ด้านบนสุดของขั้นบันไดตลาด Forex คือ ตลาดระหว่างธนาคาร ประกอบด้วยธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและธนาคารกลางและผู้เข้าร่วมตลาดเหล่านี้ สามารถแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันโดยตรงผ่านบริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ทางอิเล็กทรอนิกส์ (EBS) ฯลฯ

การแข่งขันระหว่างสองบริษัท ใน EBS นั้นใกล้เคียงกับ Nike และ Adidas พวกเขาแข่งขันกันและพยายามสร้างความแตกต่างในส่วนแบ่งการตลาดอย่างต่อเนื่อง บริษัททั้งหมดเสนอคู่สกุลเงินส่วนใหญ่แต่บางบริษัทก็มีสภาพคล่องโดยเสนอเพียงบริษัทเดียว

บนแพลตฟอร์ม EBS EUR/USD, USD/JPY,EUR/JPY,EUR/CHF หรือ USD/CHF เป็นคู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องมากขึ้น ในทางตรงกันข้าม บนแพลตฟอร์ม Router มีสภาพคล่องตาม GBP / USD, EUR / GBP, USD / CAD, AUD / USD และ NZD/USD

ธนาคารทุกแห่งในระหว่างธนาคารสามารถดูราคาที่เสนอซึ่งกันและกันได้ แต่ทุกคนไม่สามารถซื้อขายได้ในราคานั้น

ในความเป็นจริงแล้วราคาขึ้นอยู่กับความไว้ใจระหว่างคู่ค้า ตัวอย่างเช่น มีสิ่งที่เรียกว่า “อัตราแลกเปลี่ยนลูกค้าทั่วไป” ,“อัตราแลกเปลี่ยน Customer” และอัตราแลกเปลี่ยนลูกค้า VIP” ถ้าได้รับความไว้วางใจและชื่อเสียงดีขึ้น ก็จะการได้รับเงินกู้จากธนาคารท้องถิ่นในอัตราดอกเบี้ยที่ดีขึ้นและจำนวนเงินที่คุณสามารถใช้ได้มากขึ้นด้วย

ขั้นตอนต่อไปบนขั้นบันได คือ Hedge fund,บริษัท, price market maker, บริษัท ECN และอื่นๆ สถาบันเหล่านี้ไม่มีความสัมพันธ์ที่เชื่อถือได้ชัดเจนกับผู้เข้าร่วมระหว่างธนาคารและต้องทำการซื้อขายผ่านธนาคารพาณิชย์ นี่หมายถึง อัตราแลกเปลี่ยนที่สูงกว่าอัตราแลกเปลี่ยนของผู้เข้าร่วมตลาด

ท้ายสดเป็นผู้ประกอบการค้าทั่วไปที่ด้านล่างของขั้นบันได ซึ่งก่อนหน้านี้มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับประชาชนทั่วไปที่จะเข้าร่วมตลาด Forex แต่อุปสรรคในการเข้าสู่การซื้อขาย Forex นั้นหายไป เนื่องจากอินเทอร์เน็ตการค้าอิเล็กทรอนิกส์และโบรกเกอร์ เทรดเดอร์ทั่วไปยังสามารถใช้โครงสร้างขั้นบันไดนี้เพื่อการค้า

ผู้เล่นในตลาด Forex

ตอนนี้คุณเข้าใจองค์ประกอบโดยรวมของตลาด Forex แล้วมาดูผู้เล่นในตลาด Forex ที่มีอยู่ตามบันได จำเป็นต้องเข้าใจธรรมชาติของตลาด Forex และผู้เล่นหลักในตลาด Forexจนถึงปลายปี 1990 มีเพียง “นัดใหญ่”เท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมเกมส์ได้ ข้อกำหนดแรก คือ คุณไม่สามารถเริ่มต้นได้ เว้นแต่ว่าคุณจะมีเงินอยู่ระหว่าง $ 10,000,000 ถึง $ 50,000,000 เดิมที Forex ถูกใช้โดยธนาคารและสถาบันที่สำคัญไม่ใช่เพื่อสาธารณชนของเรา แต่ด้วยการใช้อินเทอร์เน็ตและโบรกเกอร์ Forex ออนไลน์มีอย่างกว้างขวางทำให้เราสามารถสร้างบัญชีที่เราสามารถทำการค้าขายได้ต่อไปคือผู้เล่นในตลาด Forex ที่สำคัญ
1. Interbank

เนื่องจากตลาด Forex มีการกระจายอำนาจจึงเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่กำหนดอัตราแลกเปลี่ยน ขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานของสกุลเงิน พวกเขามักจะทำการซื้อ/ขายสเปรด

ธนาคารขนาดใหญ่เหล่านี้ เรียกว่า Inter Bank และพวกเขามีการซื้อขาย Forex จำนวนมหาศาลสำหรับลูกค้าและตนเอง ส่วนหนึ่งของ Mega Bank ได้แก่ UBS, Barclays Capital, Deutsche Bank และ Citigroup เป็นต้น เราสามารถพูดได้ว่าตลาดระหว่างธนาคารเองนั้นเป็นตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

2. ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่

บริษัทการค้ามีส่วนร่วมในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพื่อทำธุรกิจ ตัวอย่างเช่น เมื่อบริษัทไทยซื้อชิ้นส่วนเพื่อทำผลิตภัณฑ์ ก่อนอื่นจะต้องแลกเปลี่ยน USD (ดอลล่าร์สหรัฐ) เป็น THB (บาท) หากปริมาณการซื้อขายน้อยกว่าตลาด Inter Bank ดังนั้นเทรดเดอร์ในตลาดประเภทนี้จึงซื้อขายกับธนาคารพาณิชย์

การควบรวมกิจการขององค์กร(M&A) ของบริษัทขนาดใหญ่ยังสามารถนำไปสู่ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน M&A ที่ข้ามแดนระหว่างประเทศสร้างการแปลงสกุลเงินและสามารถผลักดันราคา

3. ธนาคารกลางและรัฐบาล

รัฐบาลและธนาคารกลาง เช่น ธนาคารกลางยุโรปและธนาคารแห่งประเทศอังกฤษหรือธนาคารกลางมีส่วนร่วมในตลาด Forex เป็นประจำเช่นเดียวกับบริษัทต่างๆ รัฐบาลเข้าร่วมในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพื่อบริหารหน่วยงานของรัฐจ่ายเงินเพื่อการค้าระหว่างประเทศและจัดการทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ
ในขณะเดียวกันธนาคารกลางก็ส่งผลกระทบต่อตลาด Forex เมื่อมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อ นอกจากนี้ยังส่งผลต่อค่าสกุลเงิน นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่ธนาคารกลางแทรกแซงการรีไฟแนนซ์ตลาด Forex ในบางครั้งธนาคารกลางจะดำเนินการซื้อ/ขายจำนวนมากเพื่อผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน หากราคาสกุลเงินสูงหรือต่ำเกินไป

4. นักลงทุนส่วนบุคคล

นักลงทุนส่วนบุคคลในฐานะผู้เล่นในตลาด Forex ทำเงินได้เกือบ 90% ของการซื้อขายทั้งหมด บางคนมีเงินก้อนโตบางคนมีการลงทุนเพียงเล็กน้อย แต่ทุกคนมีส่วนร่วมในForex เพื่อสร้างรายได้มหาศาลได้

เรียนรู้ประวัติของ Forex

ในตอนท้ายของสงครามโลกครั้งที่สองตกอยู่ในความสับสนอลหม่านและรัฐบาลตะวันตกจำเป็นต้องสร้างระบบที่จะทำให้เศรษฐกิจโลกมีเสถียรภาพ
จึงทำข้อตกลงที่รู้จักกันในชื่อ “Bretton Woods System” กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนของดอลล่าร์สหรัฐเมื่อเทียบกับทองคำ สกุลเงินอื่นๆ ทั้งหมดสามารถแก้ไขได้ด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ บางครั้งอัตราแลกเปลี่ยนที่มั่นคงได้ล้าสมัยและจำกัดอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเศรษฐกิจหลักของโลกเริ่มพัฒนาในอัตราที่แตกต่างกัน ภายในปี 1971 ยกเลิกข้อตกลง “Bretton Woods Agreement”และแทนที่ด้วยระบบค่าสกุลเงินอื่นๆ เนื่องจากสหรัฐอเมริกาอยู่ศูนย์กลางตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ จึงกลายเป็นตลาดเสรีที่มีการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนโดยอุปสงค์และอุปทานตอนแรกมันยากที่กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนที่เป็นธรรมแต่มันก็แก้ไขได้อย่างง่ายดายโดยพัฒนาเทคโนโลยีและการสื่อสาร
เข้าสู่ปี 1990 เนื่องจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของนักพัฒนาและอินเทอร์เน็ตธนาคารเริ่มสร้างแพลตฟอร์มการซื้อขายของตัวเอง แพลตฟอร์มเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อส่งมอบราคาทันทีให้กับลูกค้าเพื่อการซื้อขายทันทีในทางตรงกันข้าม บริษัทที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อธุรกิจเชิงกลยุทธ์โดยใช้สิ่งนี้จะประกาศแพลตฟอร์มการซื้อขายทางอินเทอร์เน็ตสำหรับเทรดเดอร์รายบุคคล“retail forex brokers” ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนของแพลตฟอร์มเพื่อให้โบรกเกอร์ Forex สามารถซื้อขายได้แม้ขนาดธุรกรรมเล็กๆและไม่เหมือนกับตลาดระหว่างธนาคารที่มีปริมาณการซื้อขายมาตรฐาน 1 ล้านหน่วยนายหน้าซื้อขายเปิดการซื้อขาย 1,000 หน่วย

โบรกเกอร์ Forex

ในอดีตมีเพียงนักลงทุนรายใหญ่และบริษัทการลงทุนขนาดใหญ่เท่านั้นที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แต่เนื่องจากเป็นการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตกับโบรกเกอร์ Forex จึงทำให้ตอนนี้ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าร่วมการซื้อขายได้
โดยทุกคนสามารถติดต่อโบรกเกอร์ได้ในทุกสถานการณ์ เปิดบัญชีฝากเงินและสามารถทำการซื้อขายที่บ้านได้อย่างสะดวกสบาย โดยพื้นฐานของโบรกเกอร์มี 2 ประเภท คือ

1. Market Maker
เป็นประเภทการซื้อขายที่กำหนดราคาซื้อ/ขายของโบรกเกอร์

2. ECN (Electronic Communications Networks)
เป็นรูปแบบที่เสนอราคาซื้อ/ขายในราคาที่ดีที่สุดจากตลาด Interbank

Market Maker

สมมุติว่าคุณต้องการไปกินซูชิที่ญี่ปุ่น ในการชำระเงินในประเทศฝรั่งเศสคุณต้องไปที่ธนาคารหรือสำนักงานแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในท้องถิ่นเพื่อรับเงินยูโร หากคุณต้องการให้อีกฝ่ายทำการค้าของคุณด้วย คุณต้องตกลงที่แลกเปลี่ยนสกุลเงินท้องถิ่นของคุณเป็นยูโรในราคาที่พวกเขาตั้งไว้
ทุกข้อตกลงทางธุรกิจล้วนมีกับดัก ในกรณีนี้คุณต้องเข้าใจสเปรดซื้อ/ขาย
ตัวอย่างเช่น หากราคาซื้อของธนาคารสำหรับ EUR/USD คือ 1.2000 ราคาขายจะเป็น 1.2002 และส่วนต่างราคาซื้อ/ขายจะเท่ากับ 0.0002 มันดูเล็กมาก แต่เมื่อคุณลองคิดดูว่าเมื่อทำการซื้อขาย Forex หลายร้อยดอลลาร์ในแต่ละวัน Market Maker จะได้กำไรมากมายขนาดไหน
Market Maker สามารถกล่าวได้ว่าเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเลยก็ว่าได้ มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับคนธรรมดาที่จะแลกเปลี่ยน Forex โดยที่ไม่มีพวกเขา

Electronic Communications Networks (ECN)

ECN เป็นชื่อของแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ตรงกับคำสั่งซื้อ/ขายของคุณโดยอัตโนมัติ ราคาสำหรับคำสั่งซื้อเหล่านี้จะถูกรวบรวมโดย Market Maker, ธนาคาร และเทรดเดอร์อื่นที่ใช้ ECN เมื่อคำสั่งซื้อ/ขาย เข้ามาจะส่งราคาการซื้อ/ขายที่ดีที่สุดเสมอ
เนื่องจากเทรดเดอร์สามารถกำหนดราคาของตนเองได้ โบรกเกอร์ ECN จึงมักจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการซื้อขาย แม้ว่าจะเล็กน้อย การรวมกันของสเปรดที่แคบและค่าธรรมเนียมเล็กน้อยทำให้ค่าใช้จ่ายในการซื้อขายของโบรกเกอร์ ECN มีราคาถูก

เวลาในการซื้อขาย Forex

เราให้ทราบแล้วว่า Forex คืออะไร, ทำไมการซื้อขายฟอเร็กซ์ถึงดีและใครเป็นผู้สร้างตลาด Forex จากนี้เราจะมาศึกษาว่าควรต้องทำการซื้อขายเมื่อไหร่เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับการซื้อขาย Forex ในแต่ละเซสชั่นจากที่นี่ ตลาด Forex เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเปิดตลอดทั้งวัน โดยราคาจะเคลื่อนไหวเมื่อตลาดขยับขึ้นหรือลงแต่ถ้าตลาดไม่ขยับเลยคุณไม่สามารถเชื่อมต่อการซื้อขายได้ ดังนั้นการรู้ว่าเมื่อใดเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการซื้อขายก็สามารถช่วยจัดการการซื้อขายของคุณได้มาก
เวลาซื้อขาย Forex

ก่อนที่จะตรวจสอบเวลาที่ดีที่สุดในการซื้อขาย จำเป็นต้องพิจารณาเวลา 24 ชั่วโมงของโลก Forex ก่อน โดยตลาด Forex สามารถแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ส่วนแรก คือ ส่วนซิดนีย์ ส่วนที่สอง คือ ส่วนโตเกียว ส่วนที่สาม คือ ส่วนลอนดอน และส่วนที่สี่ คือ ส่วนนิวยอร์ก

ซึ่งด้านล่างนี้เป็นเวลาเปิด/ปิดของแต่ละตลาด

ช่วงหน้าร้อน(เดือนสิงหาคม~เดือนตุลาคม)
โซนเวลาESTGMT
Sydney OpenSydney Close6:00 PM3:00 AM10:00 PM7:00 AM
Tokyo OpenTokyo Close7:00 PM4:00 AM11:00 PM8:00 AM
London OpenLondon Close3:00 AM12:00 PM7:00 AM4:00 PM
New York OpenNew York Close8:00 AM5:00 PM12:00 PM9:00 PM
ช่วงหน้าหนาว (เดือนตุลาคม~เดือนเมษายน)
โซนเวลาESTGMT
Sydney OpenSydney Close4:00 PM1:00 AM9:00 PM6:00 AM
Tokyo OpenTokyo Close6:00 PM3:00 AM11:00 PM8:00 AM
London OpenLondon Close3:00 AM12:00 PM8:00 AM5:00 PM
New York OpenNew York Close8:00 AM5:00 PM1:00 PM10:00 PM

เวลาเปิด-ปิดทำการที่จริงแล้วขึ้นอยู่กับเวลาทำการของท้องถิ่นนั้นๆ

แต่ในบางประเทศเวลาทำการจะเปลี่ยนเป็นเวลาฤดูหนาวและเวลาฤดูร้อนและในเดือนตุลาคมและเมษายนมากด้วยเช่นกัน หากคุณดูรายการอย่างละเอียด คุณจะเห็นว่าเวลาทำการในลอนดอนและนิวยอร์กทับซ้อนกันอยู่ ดังนั้นคุณสามารถคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณการซื้อขายจำนวนมากในเวลาที่ทับซ้อนกันเหล่านี้ได้

ต่อไปเรามาดูการเคลื่อนไหว PIP ของคู่สกุลเงินหลักกันบ้าง

คู่สกุลเงินโตเกียวลอนดอนนิวยอร์ก
EUR/USD7611492
GBP/USD9212799
USD/JPY516659
AUD/USD778381
NZD/USD627270
USD/CAD579696
USD/CHF6710283
EUR/JPY102129107
GBP/JPY118151132
AUD/JPY98107103
EUR/GBP786147
EUR/CHF7910984

ในรายการนี้แสดงให้เห็นว่ามีการเคลื่อนไหวมากที่สุดในตลาดยุโรป (EUR) โดยเราจะมาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ แต่ละตลาดที่ว่านี้กัน

เมื่อไหร่จึงจะสามารถที่การซื้อขาย Forexได้: โตเกียว

เวลาเปิดตลาดโตเกียว คือ 12:00 AM (GMT) ซึ่งเป็นเวลาเริ่มต้นสำหรับส่วนเอเชีย บางครั้งส่วนในเอเชียนั้นถูกกำหนดให้เปิดทำการให้ตรงกับเวลาโตเกียวด้วย เนื่องจากเงินเยนของญี่ปุ่น(สกุลเงิน JPY) มีปริมาณการซื้อขายเป็นอันดับ 3 ของโลกในการซื้อขาย Forex ซึ่งเป็นอัตราเฉลี่ยถึง 16.5% ของทั้งหมด

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการซื้อขาย Forex

ช่วงเวลาที่มีอัตราผู้ชมสูงสุดของโทรทัศน์จะเรียกว่า Golden Time แต่ในการซื้อขาย Forex ก็มีชื่อว่า Golden Time ด้วยเช่นกัน ตามหลักการแล้วคุณสามารถนึกถึงช่วงเวลา Golden Time ได้ที่ช่วงเวลาสองช่วงหรือมากกว่านั้นซึ่งทับซ้อนกัน แต่ไม่ใช่ช่วงเวลาเดียว
เวลาซ้ำกันของโตเกียว-ลอนดอน

มีเหตุผลที่ว่าเวลาทับซ้อนระหว่างโตเกียวและลอนดอนนั้นสั้นและมีสภาพคล่องต่ำ เนื่องจากโดยทั่วไปการเคลื่อนไหวของตลาดเอเชียจะไม่ทำงาน ดังนั้นในช่วงบ่ายสภาพคล่องจะลดลง
นักลงทุนยุโรปที่ทำการซื้อขายในตลาดเอเชียเป็นครั้งแรกกล่าวว่า พวกเขาไม่สามารถอยู่ได้ในเวลาที่น่าเบื่อนี้ ผลลัพธ์ที่ได้ความสนใจจึงไปอยู่ที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก

เวลาซ้ำกันของลอนดอน-นิวยอร์ก

ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ตลาดการเงินขนาดใหญ่สองแห่งเคลื่อนไหวในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเห็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ก่อนการเปิดตัวของข่าวจากสหรัฐอเมริกาและแคนาดามีการใช้งานตามด้วยการรายงานข่าวยุโรปซึ่งเป็นเวลาที่คึกคักที่สุด หากแนวโน้มดังกล่าวได้รับการจัดตั้งขึ้นในตลาดยุโรปผู้ค้าสหรัฐยังจะคงเติบโตต่อไป กล่าวอีกนัยหนึ่ง สภาพคล่องสูงขึ้นจากการรายงานข่าวจากอเมริกาและแคนาดาและการรายงานข่าวล่าช้าของยุโรปทำให้สภาพคล่องนั้นอยู่ต่อไปนานขึ้น

วันที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขาย Forex

คิดว่าคุณคงเข้าใจดีว่าตลาดลอนดอนมีความเคลื่อนไหวมากกว่าตลาดอื่นๆ แต่ในความเป็นจริงมีความแตกต่างในการเคลื่อนไหวตามในแต่ละวัน ดังนั้นเรามาดูตารางการเคลื่อนไหวในแต่ละวันด้านล่างนี้กัน

คู่สกุลเงินวันอาทิตย์วันจันทร์วันอังคารวันพุธวันพฤหัสบดีวันศุกร์
EUR/USD69109142136145144
GBP/USD73149172152169179
USD/JPY4165829112498
AUD/USD588411499115111
NZD/USD2881988710096
USD/CAD4393112106120125
USD/CHF5584119107104116
EUR/JPY19133178159223192
GBP/JPY100169213179270232
EUR/GBP357481797591
EUR/CHF355555648776

นี่เป็นตารางแสดงค่าเฉลี่ยของ PIP ที่เกิดขึ้น

หากคุณดูกราฟอย่างละเอียด คุณจะเห็นว่ามีการเคลื่อนไหวอย่างมากในช่วงกลางสัปดาห์ โดยเฉพาะในวันศุกร์จนถึง 12.00 น.(EST)จะเคลื่อนไหวมากเป็นพิเศษ และตลาดเงียบลงในช่วงเวลา 17.00 น. กล่าวคือ คุณจะเห็นว่าเทรดเดอร์ส่วนใหญ่จะพักหลังเวลา 12.00 น.ของวันศุกร์

ใช้เวลาอย่างถูกต้อง

เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่เราไม่นอนตอนกลางคืนและตื่นตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อเข้าร่วมตลาดทั้งหมดได้ ซึ่งตลาดก็ไม่ได้เคลื่อนไหวตลอดเวลา ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องรีบร้อน โดยฉันอยากจะบอกคุณถึงเวลาที่ดีที่สุดและแย่ที่สุดในการซื้อขาย ดังนี้

เวลาที่ดีที่สุดในการซื้อขาย

– ตามที่พูดไว้ก่อนหน้านี้ เวลาที่ตลาด 2 แห่งขึ้นไปเปิด เป็นเวลาที่ดีที่สุด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาเปิดและปิด ตลาด ตามสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ “เกี่ยวกับเวลาซื้อขาย Forex” – ตรวจสอบแนวโน้มของตลาดยุโรปนั้นเคลื่อนไหว – ช่วงกลางสัปดาห์เป็นวันที่ดีสำหรับการซื้อขาย (อังคาร,พุธ,พฤหัสบดี) แต่คุณต้องระวังเพราะมันเคลื่อนไหวมาก

เวลาที่ไม่ดีในการซื้อขาย

– วันศุกร์ ➡ ถ้าเป็นช่วงบ่ายจะมีสภาพคล่องน้อยลง
– วันหยุด ➡ เป็นวันพักผ่อนทั้งหมด
– วันที่มีเหตุการณ์สำคัญ ➡ ไม่มีใครอยากขาดทุนและต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
– วันงานระดับชาติ ➡ ในระหว่างเปิดการแข่งขันโอลิมปิกสภาพคล่องอาจลดลงได้

คุณเริ่มเห็นช่วงเวลาการซื้อขายเพิ่มขึ้นบ้างหรือไม่? ทีนี้เรามาเรียนรู้วิธีสร้างรายได้ Forex กันบ้างดีกว่า

บทถัดไป