เนื้อหาในบทความนี้
แท่งเทียนคืออะไร?
การซื้อขายแท่งเทียน
บุคคลที่ชื่อว่า สตีฟนิสัน ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นผู้บุกเบิกในการค้นพบเทคโนโลยีแท่งเทียน Steve Nison ศึกษาแท่งเทียนและกระจายไปยังนักลงทุนจำนวนมากในช่วงทศวรรษ 90 ซึ่งรู้จักกันในนาม “แท่งเทียน (Candle stick)” ให้กับนักลงทุนทั่วโลก
ถ้าอย่างนั้นแล้วเทียนแท่งคืออะไร?
เราจะอธิบายด้วยภาพเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น
แท่งเทียนสามารถใช้ช่วงเวลาใดก็ได้ คือ 1 วัน,1 ชั่วโมง, 30 นาที แท่งเทียนเกิดขึ้นประกอบด้วย ราคาเปิด,ราคาสูงสุด,ราคาต่ำสุดและราคาปิดของช่วงเวลาที่เลือก
– หากราคาปิดสูงกว่าราคาเปิดจะถูกวาดเป็นแท่งเทียนกลวง (มักปรากฏเป็นสีขาว)
– หากราคาปิดอยู่ต่ำกว่าราคาเปิดจะถูกวาดเป็นเเท่งเทียนที่เติม (มักปรากฏเป็นสีดำ)
– ส่วนกลวงหรือส่วนเติมของเทียน เรียกว่า “ตัวแท่งเทียน”หรือ body
– เส้นบางๆที่ทะลุข้างบนหรือข้างล่างของตัว body แสดงให้เห็นราคาสูงต่ำของไส้เทียนและเรียกว่า เงา (Shadows)
– จุดสูงสุดของไส้เทียน เรียกว่า “High” จุดต่ำสุดของไส้เทียน เรียกว่า “Low”
การวิเคราะห์เเท่งเทียน
ตัวเเท่งเทียน (Body)
รูปร่างยาวแสดงถึงมีแรงซื้อหรือขายเข้ามาอย่างท่วมท้น ยิ่งตัวแท่งเทียนนั้นยิ่งยาว นั่นหมายความว่ามี ปริมาณการซื้อขายปริมาณมาก
ส่วนตัวแท่งเทียนที่สั้นนั้นแสดงถึงการซื้อขายนั้นมีเบาบาง
ตัวแท่งเทียนยาวสีฟ้านั้น หมายถึง แรงในการซื้อ ยิ่งแท่งเทียนยาวเท่าไหร่ราคาเปิดก็ยิ่งมากเท่านั้น
ตัวแท่งเทียนยาวสีดำนั้น หมายถึง แรงขายมาก ยิ่งแท่งเทียนยาวเท่าไหร่ราคาที่ชำระจะต่ำกว่าราคาเปิด
ไส้เทียน (Shadows)
ไส้เทียนที่อยู่ข้างบนตัวเทียนหรือที่อยู่ข้างล่างเทียนนั้นให้รายละเอียดบางอย่างที่สำคัญเกี่ยวกับการเทรดที่เกิดขึ้นในเวลาช่วงนั้นๆ ไส้เทียนมีหลายประเภท มีทั้งแบบมีไส้และไม่มีไส้ เรามาดูประเภทของไส้เทียนกัน
ถ้าไส้เทียนด้านบนยาวและไส้เทียนด้านล่างสั้น หมายถึง ราคาสูงขึ้นแต่มีผู้ซื้อน้อยกว่าผู้ขาย
แต่หากไส้เทียนด้านล่างยาวและไส้เทียนด้านบนสั้น หมายถึง ราคาสูงขึ้น ผู้ขายน้อย คือฝั่งผู้ซื้อดึงราคาให้กลับมาอยู่ใกล้กับจุดที่ราคาเปิด
รูปแบบเเท่งเทียนพื้นฐาน
Spinning tops
ตัวแท่งเทียน(ที่เป็นสีดำ)สั้นและไส้เทียนด้านบนและด้านล่างสั้น เรียกว่า Spinning tops
ตังแท่งเทียน(ที่เป็นสีขาว)สั้นและไส้เทียนด้านบนและด้านล่างสั้น เรียกว่า Spinning tops
สีของแท่งเทียนจะไม่สำคัญมาก รูปแบบของแท่งเทียนบ่งบอกถึงภาวะตลาดที่ลังเลระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย
ราคาของตัวแท่งเทียน(สีขาวดำ)ของแท่งเทียนDoji(รูปไม้กางเขน) บอกราคาสูงสุดต่ำสุดแต่ตัวแท่งเทียนจะเป็นเส้นบางๆ กล่าวคือ ผู้ซื้อและผู้ขายทั้งหมดแทบจะกระทำการใดๆ
หากเกิดเเนวโน้มขึ้นในระหว่างที่ราคาขึ้น ผู้ซื้อเหลืออยู่ไม่มาก แนวโน้มสามารถขยับไปในทิศทางตรงกันข้ามได้ด้วย และหากเกิดราคาในแนวโน้มขาลง ผู้ขายเหลืออยู่ไม่มาก บอกได้ว่าแนวโน้มสามารถขยับไปในทิศทางตรงกันข้ามได้
Marubozu
Morubozu หมายถึง ตัวแท่งที่ไม่มีไส้เทียน ดังนั้นเรามาดูภาพข้างล่างนี้กัน
White Marubozu ประกอบด้วยตัวแท่งเทียนสีขาว โดยไม่มีไส้เทียน ราคาเปิดเท่ากับราคาต่ำสุดและ ราคาปิด คือ ราคาสูงสุด ซึ่งบอกว่าเป็นภาวะกระทิงอย่างเห็นได้ชัดว่าผู้ซื้อกำลังควบคุมตลาดอยู่ชัดเจน และกราฟแบบนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการเกิดภาวะกระทิงอย่างต่อเนื่องหรือ จุดกลับตัวมาสู่สภาวะกระทิง(bullish) ด้วย
Black Marubozu ประกอบด้วยตัวแท่งเทียนสีดำโดยไม่มีไส้เทียน ราคาเปิดจะเท่ากับราคาสูงสุดและ ปิดที่ราคาต่ำที่สุด นี่เป็นกราฟของภาวะหมี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อมีอำนาจเหนือตลาด และแสดงให้เห็นว่าผ้ขูายควบคมุราคาทั้งหมดในช่วงราคานี้บ่งบอกว่าสภาวะหมีเกิดขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่องหรือเกิดการกลับตัวมาสู่สภาวะหมี(bearish)
มีแท่งเทียนพิเศษ 4 ชนิด เรียกว่า Doji
หากดูจากเส้นนี้ในการซื้อขายนั้นให้ระวังเป็นพิเศษ
หากเเท่งเทียน Doji ออกมาหลังจากเกิดเเท่งเทียน White marubozus นั่นเป็นเพราะว่าผู้ซื้อกำลังอ่อนตัวลง ดังนั้นจำเป็นต้องมีผู้ซื้อจำนวนมากขึ้นอีกเพื่อให้ราคาสูงขึ้น
ในทางกลับกันเเท่งเทียน Doji ออกมาหลังจากเกิดเเท่งเทียน Black marubozus นั่นเป็นเพราะฝั่งผู้ขายกำลังอ่อนตัวลงหรือผู้ขายมีไม่เพียงพอ
การลดลงของราคาเนื่องจากขาดแรงขายจากผู้ขายรายใหม่ แต่หากย้อนกลับต้องใช้กำลังซื้อใหม่
ต่อไปมาดูรูปแบบเเท่งเทียนอย่างละเอียด ลองพิจารณาดูว่าจะถ่ายทอดอะไร เป้าหมายคือการเรียนรู้เกี่ยวกับแท่งเทียนและช่วยในการซื้อขายของคุณ
รูปแบบกราฟแท่งเทียนแบบเดี่ยว
รูปแบบกราฟแท่งเทียนเบื้องต้นทั้ง 4 แบบ
กราฟแท่งเทียนรูปแบบ Hammer กับรูปแบบ Hanging Man
กราฟแท่งเทียนรูปแบบ Hammerและ Hanging Man นั้นอาจดูเหมือนกันอย่างมาก แต่ทั้งสองนั้นมีความหมายที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงโดยขึ้นอยู่กับพฤติกรรมราคาที่ผ่านมา ทั้งสองนั้นมีรูปร่างที่เล็กน่ารัก (สีดำหรือขาว) มีไส้เทียนเส้นยาว และมีตัวเทียนอยู่ด้านบน
ในรูปแบบ Hammer จะเป็นรูปแบบที่แสดงถึงการกลับตัวของราคาเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นที่เกิดขึ้นระหว่างช่วงขาลง ซึ่งชื่อนี้ถูกตั้งขึ้นเนื่องจากตลาดกำลังจะออกจากจุดต่ำสุด
เมื่อราคาตกลง รูปแบบHammer จะส่งสัญญาณว่าราคาเข้าใกล้กับจุดต่ำสุดของกราฟ และราคาจะขึ้นอีกครั้ง ไส้เทียนเส้นยาวแสดงให้เห็นว่า ผู้ขายนั้นกดราคาให้ต่ำลง แต่ผู้ซื้อนั้นได้ผ่านแรงกดดันจากการขายนี้ได้และปิดการเทรดได้ใกล้กับราคาเปิด แต่เพียงแค่คุณเห็นรูปแบบ Hammer นี้ในช่วงขาลงก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะวางคำสั่งซื้อโดยอัตโนมัติ มันจำเป็นต้องมีสัญญาณขาขึ้นที่ชัดเจนก่อนที่จะลงมือ ตัวอย่างทั่วไปของการยืนยันนั้นคือการรอให้แท่งเทียนสีขาวปิดการเทรดที่ราคาเหนือราคาเปิดไปทางด้านขวาของรูปแบบ Hammer
Recognition Criteria:
– ไส้เทียนจะมีความยาวประมาณ 2 ถึง 3 เท่าของขนาดตัวเทียน
– ตัวเทียนมีขนาดเล็กหรือแทบไม่มี
– ตัวเทียนนั้นจะอยู่จุดบนสุดของช่วงราคาการเทรด
– สีของตัวเทียนนั้นไม่สำคัญ
รูปแบบ Hanging Man นั้นเป็นรูปแบบที่แสดงถึงการกลับตัวของราคาเข้าสู่แนวโน้มขาลง ทำให้สามารถที่จะบอกได้ว่าจุดใดเป็นระดับแนวต้านทานที่สูงที่สุดหรือแข็งแรงที่สุด
เมื่อราคาขึ้นสูงขึ้น การก่อตัวของรูปแบบ Hanging Man นั้นสามารถระบุได้ว่าจำนวนผู้ขายเริ่มที่จะมีมากกว่าจำนวนผู้ซื้อ ไส้เทียนเส้นยาวนั้นแสดงให้เห็นว่าผู้ขายนั้นกดราคาลงในช่วงการเทรด ผู้ซื้อนั้นสามารถดันราคาขึ้นมาได้บ้าง แต่เป็นราคาที่ใกล้กับราคาเปิดเท่านั้น สิ่งนี้สามารถส่งสัญญาณเตือนผู้เทรดได้ว่า ตลาดไม่มีผู้ซื้อเหลือมากพอที่จะทำให้เกิดแรงผลักดันที่ทำให้ราคาสูงขึ้น
Recognition Criteria:
– ไส้เทียนจะมีความยาวประมาณ 2 ถึง 3 เท่าของขนาดตัวเทียน
– ตัวเทียนมีขนาดเล็กหรือแทบไม่มี
– ตัวเทียนนั้นจะอยู่จุดบนสุดของช่วงราคาการเทรด
– สีของตัวเทียนนั้นไม่สำคัญ แต่ตัวเทียนสีดำนั้นมักจะมีแนวโน้มที่ราคาจะกลับตัวเข้าสู่ขาลงมากกว่าตัวเทียนสีขาว
รูปแบบ Long Upper Shadow
ไม่ว่าไส้เทียนจะสั้นกว่าไส้เทียนด้านบนหรือไส้เทียนล่างจะไม่มี สีดำ คือ ไส้เทียนบน,สีน้ำเงิน คือไส้เทียนบน
รูปแบบ Long Upper Shadow มี 2 รูปแบบ คือ Inverted hammer และ Shooting star นั้นก็เป็นรูปแบบที่มีรูปร่างที่เหมือนกัน ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวของทั้งสองนั้นคือ คุณอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลงของตลาด รูปแบบ Inverted Hammer นั้นเป็นรูปแบบกราฟแท่งเทียนที่มีการกลับตัวของราคาเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น (Bullish Reversal) รูปแบบ Shooting Star นั้นเป็นรูปแบบกราฟแท่งเทียนที่มีการกลับตัวของราคาเข้าสู่แนวโน้มขาลง (Bearish Reversal)
โดยทั้งสองรูปแบบนี้เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีรูปร่างเล็ก (แบบทึบหรือแบบโปร่ง) มีไส้เทียนทางบน และมีตัวเทียนขนาดเล็กหรือไม่มีเลย
รูปแบบกราฟแท่งเทียนแบบคู่
รูปแบบ Bullish Engulfing เป็นรูปแบบแท่งเทียน 2 แท่งที่เกิดขึ้นในช่วงขาลงของตลาด ส่งสัญญาณว่าอาจมีแนวโน้มที่แข็งแรงในการปรับตัวขึ้นของราคา รูปแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนในแนวโน้มขาลงนั้นตามมาทันทีด้วยแท่งเทียนขาขึ้น
โดยที่แท่งเทียนแท่งที่ 2 แท่งเทียนขาขึ้นกลืนแท่งเทียนขาลง ซึ่งหมายความว่าผู้ซื้อนั้นจะยืดหยุ่นร่างกายของพวกเขา ที่ส่งนี่อาจส่งผลให้มีการปรับตัวขึ้นของราคาหลังจากราคาที่ตกลงที่ผ่านมา
แต่ในทางกลับกัน Bearish Engulfing เป็นรูปแบบที่ตรงกันข้ามกับรูปแบบ Bullish รูปแบบของแท่งเทียนชนิดนี้เกิดขึ้นต่อเมื่อแท่งเทียนขาขึ้นนั้นตามมาทันทีด้วยแท่งเทียนขาลง โดยแท่งเทียนขาลงนั้นมีขนาดใหญ่จนสามารถ “กลืน” แท่งเทียนขาขึ้นได้จนหมด นี่หมายความว่าผู้ขายมีอำนาจเหนือผู้ซื้อ และอาจเกิดแนวโน้มที่แข็งแรงในการปรับตัวลงของราคาได้
รูปแบบ Tweezer Bottoms และ Tweezer Tops
รูปแบบแท่งเทียนนี้มักจะเกิดขึ้นให้เห็นหลังจากมีการปรับตัวของราคาขึ้นหรือลงที่เกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง แสดงให้เห็นว่าการกลับตัวของราคาจะเกิดขึ้นในไม่ช้า สังเกตได้ว่าการก่อตัวของแท่งเทียนนี้นั้นเหมือนกับ Tweezer จึงเรียกว่า “Tweezer”
รูปแบบ Tweezers ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดจะต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้
– แท่งเทียนแท่งแรกนั้นเป็นเหมือนกับราคาโดยรวมทั่วไป หากราคาปรับตัวขึ้น แปลว่าแท่งเทียนแท่งแรกนั้นมีรูปแบบขาขึ้น
– แท่งเทียนแท่งที่สองนั้นเป็นสภาพตลาดที่ตรงข้ามกับสภาพโดยรวมทั่วไป หากราคาปรับตัวขึ้น แท่งเทียนแท่งที่สองนั้นจะเป็นรูปแบบขาลง เงาของแท่งเทียนนั้นควรจะมีขนาดเท่ากับความยาว
– ไส้เทียนทั้งสองนั้นจะมีความยาวเท่ากัน Tweezer Tops ควรที่จะมีราคาสูงสุดที่เท่ากัน ในขณะที่ Tweezer Bottoms นั้นควรจะมีราคาต่ำสุดที่เท่ากัน
รูปแบบแท่งเทียนประเภทสามแท่ง
รูปแบบ Evening Stars และ Morning Stars
รูปแบบ Evening Star และ Morning Star เป็นรูปแบบแท่งเทียนประเภทสามแท่งที่คุณมักจะพบในตอนจบของแนวโน้มการปรับตัวของราคา
พวกมันเป็นรูปแบบการปรับตัวของราคาที่สามารถสังเกตได้ผ่าน 3 ลักษณะต่อไปนี้ โดยจะใช้รูปแบบ Evening Stars อยู่ทางด้านขวาเป็นตัวอย่างในสิ่งที่คุณอาจจะได้พบ
1. แท่งเทียนแท่งแรกเป็นแท่งเทียนขาขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มปรับตัวขึ้นของราคาที่ผ่านมา
2. แท่งเทียนแท่งที่ 2 นั้นมีรูปร่างที่เล็ก แสดงให้เห็นว่าอาจมีการตัดสินใจที่ไม่แน่นอนอยู่ในตลาด ซึ่งการดูแท่งเทียนนี้ไม่สามารถตัดสินได้ว่าเป็นขาขึ้นและขาลง
3. แท่งเทียนแท่งที่ 3 ทำหน้าที่เป็นตัวยืนยันว่าการปรับตัวของราคาได้เกิดขึ้นแล้ว เนื่องจากแท่งเทียนนี้แสดงถึงการปิดการเทรดเหนือจุดกึ่งกลางของแท่งเทียนแท่งแรก
รูปแบบ Three White Soldiers และ Three Black Crows
รูปแบบ Three White Soldiers เป็นรูปแบบที่ก่อตัวขึ้นเมื่อแท่งเทียนขาขึ้น 3 แท่งตามมาด้วยการปรับตัวลงของราคา ส่งสัญญาณให้เห็นว่าการกลับตัวของราคาได้เกิดขึ้นแล้ว
รูปแบบนี้แท่งเทียนที่ 2 ควรต้องมีขนาดใหญ่กว่าเเท่งเทียนที่ 1 อีกทั้งแท่งเทียนที่ 2 ควรมีราคาปิดโดยไม่มีไส้เทียนหรือมีไส้เทียนสั้น
รูปแบบ Three Black Crows เป็นรูปแบบที่ตรงกันข้ามกับ Three White Soldiers ซึ่งรูปแบบนี้จะก่อตัวขึ้นก็ต่อเมื่อแท่งเทียนขาลงมีการตามมาด้วยแนวโน้มอย่างแข็งแรงของการปรับขึ้นของราคา แสดงให้เห็นได้ว่าการกลับตัวของราคานั้นได้เกิดขึ้นแล้ว
รูปร่างของแท่งเทียนแท่งที่ 2 นั้นควรมีขนาดใหญ่กว่าขนาดของแท่งเทียนแท่งแรก และควรที่จะมีราคาปิดที่เท่ากับหรือใกล้กับราคาต่ำสุดและท้ายที่สุด แท่งเทียนแท่งที่ 3 นั้นควรที่จะมีขนาดเท่ากับ หรือใหญ่กว่าตัวแท่งเทียนแท่งที่ 2 โดยมีไส้เทียนสั้นหรือไม่มีไส้เทียนเลย
รูปแบบ Three Inside Up และ Three Inside Down
การก่อตัวของกราฟแท่งเทียนรูปแบบ Three Inside Up นั้นเป็นรูปแบบการปรับตัวของแนวโน้มราคา ซึ่งสามารถพบได้ในจุดต่ำสุดของแนวโน้มราคาขาลง รูปแบบแท่งเทียน 3 แท่งนี้แสดงให้เห็นถึงว่า แนวโน้มราคาขาลงนั้นคาดว่าได้สิ้นสุดลงและแนวโน้มราคาขาขึ้นนั้นได้เกิดขึ้น
สำหรับการก่อตัวของกราฟแท่งเทียนแบบ Three Inside Up ที่สมบูรณ์นั้นสามารถสังเกตได้จากคุณสมบัติเหล่านี้
1. แท่งเทียนแท่งแรกนั้นควรที่จะพบในจุดต่ำสุดของแนวโน้มราคาขาลง และสามารถแยกได้จากแท่งเทียนขาลง
2. แท่งเทียนแท่งที่ 2 นั้นควรที่จะเคลื่อนตัวขึ้นไปถึงจุดกึ่งกลางของเทียนแท่งแรก
3. แท่งเทียนแท่งที่ 3 นั้นจะต้องปิดเหนือราคาสูงสุดของแท่งเทียนแรก
ในทางกลับกันการก่อตัวของเเท่งเทียนแบบ Three Inside Down ที่พบด้านบนของแนวโน้มขาขึ้น หมายความว่าเเนวโน้มขาขึ้นอาจจบลงและเเนวโน้มขาลงใหม่ได้เริ่มขึ้นเเล้ว
การก่อตัวของแท่งเทียนแบบ Three Inside Down จะต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
1. แท่งเทียนแท่งแรกนั้นควรที่จะพบในจุดสูงสุดของแนวโน้มราคาขาขึ้น และสามารถแยกได้จากแท่งเทียนขาขึ้น
2. แท่งเทียนแท่งที่ 2 นั้นควรที่จะเคลื่อนตัวลงไปถึงจุดกึ่งกลางของเทียนแท่งแรก
3. แท่งเทียนแท่งที่ 3 นั้นจะต้องปิดใต้ราคาต่ำสุดของแท่งเทียนแรก
โพยเเท่งเทียน
Number of Bars | Candlestick Name | Bullish or Bearish? | What It Looks Like? |
---|---|---|---|
Single | Spinning Top | Neutral | |
Doji | Neutral | ||
White Marubozu | Bullish | ||
Black Marubozu | Bearish | ||
Hammer | Bullish | ||
Hanging Man | Bearish | ||
Inverted Hammer | Bullish | ||
Shooting Star | Bearish | ||
Double | Bullish Engulfing | Bullish | |
Bearish Engulfing | Bearish | ||
Tweezer Tops | Bearish | ||
Tweezer Bottoms | Bullish | ||
Triple | Morning Star | Bullish | |
Evening Star | Bearish | ||
Three White Soldiers | Bullish | ||
Three Black Crows | Bearish | ||
Three Inside Up | Bullish | ||
Three Inside Down | Bearish |
ชื่อเรียก | รูปแบบ | ความหมาย |
---|---|---|
White Marubozu | เป็นรูปแบบที่สามารถยืนยันราคาสูงสุดต่ำสุดได้ หาก White Marubozu ราคาเปิดเท่ากับราคาต่ำสุดและราคาปิด คือ ราคาสูงสุด | |
Black Marubozu | เป็นรูปแบบที่สามารถยืนยันราคาสูงสุดต่ำสุดได้ หาก Black Marubozu ราคาเปิดจะเท่ากับราคาสูงสุดและ ปิดที่ราคาต่ำที่สุด | |
Spinning Top | เป็นขาขึ้นแต่ราคาขยับไม่มาก | |
Spinning Top | เป็นขาลงแต่ราคาขยับไม่มาก | |
Doji (สามารถเปลี่ยนทิศทางได้) | มีการขยับของราคาแต่สุดท้ายเเล้วราคาเปิดและราคาปิดเหมือนกัน เป็นข้อยืนยันว่านักลงทุนทั้งหลายมีความกังวลใจ ตลาดมีการกลับตัวบ่อย | |
Hanging Man | ราคาตกลงแต่ฟื้นตัวกลับมาและราคาปิดเหนือราคาเปิด บ่งบอกราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น | |
Hammer | ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิดแต่ราคาร่วงลงก่อนที่ราคาจะเริ่มขึ้นอีกครั้งในไม่ช้า | |
Shooting Star | ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิดแต่ไม่ไปถึงราคาสูงสุด | |
Inverted Hammer | ราคาขึ้นแต่ราคาปิดอยู่ต่ำกว่าราคาเปิด มีแนวโน้มลงลงสูง |
สรุป: เกี่ยวกับเเท่งเทียน
Candlesticks are formed using the open,
high, low, and close of a
particular time period.
– เมื่อราคากำลังขึ้น ตัวแท่งเทียนจะเป็นสีขาว
– เมื่อราคากำลังลง ตัวแท่งเทียนจะเป็นสีดำ
– เส้นที่อยู่ติดตัวแท่งเทียนด้านบนและล่าง เรียกว่า ไส้เทียนด้านบน ไส้เทียนด้านล่าง
– ตัวแท่งเทียนยาว หมายถึง การซื้อหรือขายแข็งแกร่ง ยิ่งยาวเท่าไหร่ความต้องการซื้อขายยิ่งแข็งแกร่งเท่านั้น
– ตัวแท่งเทียนสั้น หมายถึง การซื้อหรือการขายน้อย
– จุดสูงสุดของไส้เทียน คือ High
จุดต่ำสุดของไส้เทียน คือ Low
แท่งเทียนมีหลายชนิด ซึ่งแบ่งออกเป็นใหญ่ๆ คือ แท่งเทียนแบบ Single,Dual และ Triple
จำนวนแท่ง | รูปแบบเเท่งเทียนญี่ปุ่น |
---|---|
Single | Spinning Tops, Dojis, Marubozu, Inverted Hammer, Hanging Man, Shooting Star |
Double | Bullish and Bearish Engulfing, Tweezer Tops and Bottoms |
Triple | Morning and Evening Stars, Three Black Crows and Three White Soldiers, Three Inside Up and Down |
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรรู้รูปแบบแท่งเทียนไว้
สุดท้ายโปรดจำไว้ว่าแม้ว่ารูปแบบนี้จะเห็นได้ในการซื้อขายจริงก็ตามแต่การซื้อขายไม่อาจทำได้ตามแบบนี้ได้เรียนรู้มา เราต้องพิจารณาจากสภาพตลาดและการเคลื่อนไหวของราคาด้วย