fbpx

พื้นฐานฟอเร็กซ์ Level 14

การซื้อขายสัญญาณกลับตัว

ประเภทสัญญาณกลับตัว(Divergences)

Divergences หมายถึง เดิม,แยกออก, เบี่ยงออก หมายถึงปรากฏการณ์ความผันผวนราคาของตลาดและตัวชี้วัด(การเคลื่อนไหวของตัวชี้วัดทางเทคนิค)จะกลับตัวตัวชี้วัดทางเทคนิคโดยทั่วไป เป็นการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา หากตัวชี้วัดเกิดแนวโน้มขาขึ้น แท่งเทียนก็จะเป็นแนวโน้มขาขึ้นเช่นกัน แต่ว่าสิ่งนี้ก็มีโอกาสที่จะเกิดการกลับตัวได้ ตัวอย่างเช่น แท่งเทียนกำลังเปลี่ยนราคาสูงสุดที่แนวโน้มขาขึ้นเป็นค่าทางเทคนิค RSI อื่นๆ ที่ต่ำลงและสิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับสัญญาณการกลับตัวนี้คือ คุณมักจะทำการซื้อในจุดที่ใกล้กับจุดต่ำสุด หรือขายในจุดที่ใกล้กับจุดสูงสุด ซึ่งการเทรดเช่นนี้จะทำให้การเทรดของคุณมีความเสี่ยงที่น้อยมากเมื่อเทียบกับผลกำไรที่คุณจะได้2 ประเภทสัญญาณการกลับตัว:

1. Regular Divergence
2. Hidden Divergence

บทเรียนนี้ เราจะสอนคุณถึงวิธีในการมองหาสัญญาณการกลับตัวเหล่านี้และวิธีการเทรดพวกมัน

สัญญาณกลับตัว Regular Divergence

Divergence เรียกง่ายๆ คือ สัญญาณการกลับตัว(Regular Divergence)
หาก Oscillator ราคาต่ำสุดเพิ่มขึ้นในตอนที่ราคากำลังต่ำสุดลดลง เป็นการกลับตัว(Divergence)ของการซื้อ(BUY)การเคลื่อนไหวนี้มักจะเกิดขึ้นหลังจากมีแนวโน้มลดลงเป็นเวลานาน เมื่อราคาที่ต่ำกว่าใกล้กับแนวรับ (ช่วงราคาที่รองรับราคาที่ลดลงในตลาดล่าง) และราคาลดลง Oscillatorจะยกระดับราคาต่ำซึ่งหมายความว่ามีสัญญาณของการกลับตัวมาทำความเข้าใจ Divergence ในกราฟกันดีกว่า
ภาพด้านล่าง คือ Regular Divergence ขาขึ้น

LL: Lowers Low HL: Higher Lows

1 highschool 02 img01

HH: Higher High LH: Lower High

1 highschool 02 img02

ถ้าหากราคานั้นมีการปรับตัวจนเกิดจุด Higher High (HH) แต่ Oscillator นั้นทำให้เกิดจุด Lower High (LH) มันจะถือว่าเป็นสัญญาณการกลับตัว Regular Divergence แบบขาลง

สัญญาณการกลับตัวประเภทนี้จะสามารถพบได้ในแนวโน้มขาขึ้น
โดยหลังจากราคาปรับขึ้นไปจุดสูงสุดจุดที่สอง หาก Oscillator ไม่สามารถที่จะทำให้เกิดจุด Lower High จุดใหม่ได้ คุณจะสามารถเดาได้ว่าราคานั้นมีโอกาสที่จะกลับตัวและตกลง

ในรูปด้านล่างนี้ เราจะเห็นว่าราคากลับตัวหลังจากเกิดจุดสูงสุดเป็นครั้งที่สอง
อย่างที่คุณเห็น สัญญาณการกลับตัว(Regular Divergence) นั้นจะทำงานได้ดีที่สุดในการเลือกจุดสูงสุดและต่ำสุด

สัญญาณการกลับตัว Hidden Divergence

วิธีการใช้ Divergenceนั้นไม่เพียงแต่ส่งสัญญาณการกลับตัวเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้บอกถึงความเป็นไปได้ที่สัญญาณจะดำเนินต่อไป สิ่งนั้นเรียกว่า สัญญาณการกลับตัว (Hidden Divergence)
Hidden หมายถึง ‘ซ่อนอยู่’ จึงหมายถึง สัญญาณกลับตัวที่ซ่อนอยู่Hidden Divergence ขาขึ้นคืออะไร เราจะอธิบายกัน
Hidden Divergence ขาขึ้น ราคามีการปรับไปที่จุด Higher Low แต่ Oscillator ของ Stochastic เป็นการปรับราคา
ตัวอย่างเช่น คู่สกุลเงินอยู่ในเเนวโน้มขาขึ้นและเมื่อราคาปรับขึ้นไปที่จุด Higher Low (HL)
ถ้าหาก Stochestic ปรับลงไปที่จุด Lower Low (LL) นั่นแปลว่าเรามีสัญญาณการกลับตัว Hidden Divergence อยู่ กล่าวคือ เป็นสัญญาณที่เเนวโน้มขาขึ้นมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถดูได้จากกราฟตัวอย่างนี้
กราฟด้านล่างนี้ Stochastic มีการปรับลงไปที่จุด Higher Low(HL) ราคาจึงทำการ Hidden Divergence แบบขาขึ้นที่ปรับขึ้นไปที่จุด Higher Low(HL)

1 highschool 03 img01

กราฟด้านล่างนี้เป็นตัวอย่าง Hidden Divergence แบบขาลง
Stochastic จะปรับราคาไปที่จุด Higher High (HH) แล้วราคาปรับลดลง

จากตรงนี้แนวโน้มขาลงยังคงอยู่

1 highschool 03 img02

หากคุณเป็นผู้ติดตามเทรนด์คุณควรมองหาสัญญาณการกลับตัว Hidden Divergence
ถ้าคุณมองหา Hidden Divergence เจอ ก็จะช่วยให้สามารถเข้าเทรนด์ได้ด้วยความเสี่ยงที่ต่ำ

มาถึงตรงนี้ท่านเข้าใจ Divergence และ Hidden Divergence บ้างเเล้วใช่ไหม?
จำไว้เสอว่า Divergence เป็นเทคนิคการส่งสัญญาณแสดงความเป็นไปได้ที่เทรนด์จะมีการกลับตัว ในขณะที่ Hidden Divergence เป็นเทคนิคการส่งสัญญาณว่าแนวโน้มจะยังคงดำเนินต่อไป

ในบทเรียนต่อไป จะอธิบายเกี่ยวกับวิธีการซื้อขายจริงเมื่อสัญญาณกลับตัวเกิดขึ้น

การเทรดสัญญาณการกลับตัว (Divergence)

ต่อไปมาดูที่สัญญาณการกลับตัว Regular Divergence
โดยด้านล่างนี้เป็นกราฟราคาคู่สกุลเงิน USD/CHF และ Oscillator

1 highschool 04 img01

เราจะเห็นได้จากเส้นเทรนด์ไลน์ที่ตกลงมานั้นอยู่ในแนวโน้มขาลง
อย่างไรก็ตาม มันยังมีสัญญาณว่าแนวโน้มขาลงจะมาถึงที่จุดสิ้นสุด

ในขณะที่ราคานั้นอยู่ที่จุด Lower Low(LL), Stochastic (ตัวบ่งชี้ของเรา) แสดงราคาที่ High Low(HL)
แล้วการกลับตัวนั้นกำลังจะสิ้นสุดหรือไม่ แล้วถึงเวลาเราจะซื้อพวกมันหรือยัง?

1 highschool 04 img02

คำตอบของคุณคือใช่

สัญญาณบ่งบอกถึงจำนวนการซื้อและหากได้รับการซื้อจากด้านล่างก็จะได้รับกำไรอย่างมาก

มันกลายเป็นว่าสัญญาณการกลับตัวระหว่างพฤติกรรมของ Stochastic และราคาที่เกิดขึ้นเป็นสัญญาณที่ดีในการซื้อ
ราคาจะทะลุผ่านเส้นเทรนด์ไลน์ขาลง และก่อตัวขึ้นใหม่ในช่วงขาขึ้น เนื่องจากราคาจะยังคงปรับตัวขึ้นสูงขึ้นอีกในเดือนต่อไป
ถ้าคุณซื้อใกล้กับจุดต่ำสุด คุณจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้มากกว่า 1000 pips

ตอนนี้คุณเห็นแล้วใช่ไหมว่าการเข้าเทรนด์ได้อย่างรวดเร็วนั้นดีอย่างไร?

1 highschool 04 img03

คุณสามารถเห็นได้ในกราฟที่แนวโน้มขาลงต่อเนื่อง
ราคาได้ปรับตัวไปที่จุด Lower High(LH) แต่ Stochastic แสดงราคาที่จุด Higher High(HH) ตามที่เราได้อธิบายไว้ มันคือสัญญาณการกลับตัว Hidden Divergence แบบขาลง
เราจะต้องทำอย่างไร ต้องกลับเข้าไปในเทรนด์ไหม?

หากคุณไม่แน่ใจ ลองตรวจสอบอีกครั้ง

1 highschool 04 img04

ราคานั้นเด้งตัวจากเส้นเทรนด์ไลน์ และตกลงมาเกือบ 2,000 pips ในที่สุด
ลองคิดภาพว่าถ้าคุณได้ Divergence และเห็นมันเป็นสัญญาณที่มีศักยภาพสำหรับความต่อเนื่องของแนวโน้ม

การหลีกเลี่ยงการเข้าที่เร็วไปผ่านสัญญาณการกลับตัว

ขณะที่การใช้สัญญาณการกลับตัวเป็นเครื่องมือที่ดีที่จะมีไว้ในกล่องเครื่องมือการซื้อขายของคุณ บางครั้งคุณอาจเข้าไปเร็วมากเกินไปเพราะคุณไม่รอที่จะยืนยันให้ชัดเจน

Wait for an Indicator Crossover (รอให้อินดิเคเตอร์มีการ Crossover)

ก่อนอื่นมารอตัวบ่งชี้จนกว่าจะ Crossoverกัน จากนั้นคุณจะเห็นช่วงเวลาในการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนไหวจากการซื้อเป็นการขาย เมื่อเป็นรูปแบบการ Crossover สามารถแยกจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดของราคาในครั้งเเรก

จากกราฟด้านบนนี้ คู่สกุลเงินชี้ให้เห็นถึงจุด Lower High(LH) ในขณะที่ Stochastic นั้นได้เกิดจุด Higher High(HH) ขึ้น

1 highschool 05 img01

แต่คุณรู้มั้ยว่า ความอดทนเป็นสิ่งที่ดี มันดีกว่าที่จะรอให้ Stochastic นั้นเริ่มแสดงการ Crossover ในทิศทางขาลง

1 highschool 05 img02

และแท่งเทียนถัดมา เราจะเห็นว่า Stochastic มีการ Crossover
ประเด็นหลักที่นี่คือ「ความอดทนรอ」

รอให้อินดิเคเตอร์นั้นเคลื่อนตัวออกจากพื้นที่ที่มีการซื้อ/ขายที่มากเกินไป

กลวิธีอีกอย่างคือการรอให้จุด High และ Low เคลื่อนตัวไปชนกับจุดที่มีการซื้อและการขายที่มากเกินไป และรอให้ตัวบ่งชี้เหล่านั้นเคลื่อนตัวออกจากพื้นที่เหล่านั้น
เหตุผลที่ทำเช่นนี้คล้ายกับการรอการ Crossover – คุณไม่มีทางรู้เลยว่าทิศทางการเคลื่อนไหวจะเปลี่ยนแปลงไปตอนไหน
ลองสมมติว่าคุณดูที่กราฟ และสังเกตว่า Stochastic นั้นได้สร้างจุด Low ขึ้นมาใหม่ แต่ราคานั้นไม่เปลี่ยนแปลง

1 highschool 05 img03

คุณอาจคิดว่ามันถึงเวลาที่จะต้องซื้อ เพราะตัวบ่งชี้แสดงให้เห็นว่ามันเข้ากับเงื่อนไขที่มีการซื้อที่มากเกินไป และสัญญาณการกลับตัวนั้นได้ก่อตัวขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตาม แรงกดดันการขายอาจยังมีความแข็งแรงอยู่ และราคายังคงตกลงอย่างต่อเนื่องและสร้างจุด Low ใหม่ได้

คุณอาจจะถูกตัดออกไป เนื่องจากแนวโน้มนั้นไม่ดำเนินต่อ
อันที่จริง แนวโน้มขาลงใหม่นั้นอาจอยู่ในที่ที่คู่สกุลกำลังสร้างจุด Lower High
และถ้าคุณยังดื้อต่อไป คุณอาจพลาดการเคลื่อนตัวในขาลงนี้ได้
แต่ถ้าคุณรออย่างอดทนเพื่อให้ได้การยืนยันที่ชัดเจนมากขึ้นว่าสัญญาณการกลับตัวได้เกิดขึ้นแล้ว คุณจะสามารถหลีกเลี่ยงการสูญเสียและตระหนักได้ว่าแนวโน้มใหม่กำลังพัฒนา

การวาดเส้นเทรนด์ไลน์จากการเคลื่อนไหวของตัวบ่งชี้ Momentum

เพราะโดยปกติแล้ว คุณวาดเส้นเทรนด์ไลน์จากพฤติกรรมของราคา แต่นี่เป็นกลวิธีที่ดีที่เราอยากแชร์ให้กับคุณ
เพราะท้ายที่สุดแล้ว การรู้วิธีที่หลากหลายไว้ก็ไม่เสียหายอะไร
กลวิธีนี้อาจมีประโยชน์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อกำลังมองหาการกลับตัวหรือการทะลุออกจากเทรนด์(ตอนแบ่งเส้น Support)

1 highschool 05 img04

เงื่อนไขการซื้อขายการกลับตัว (Divergence)

กรณีเทรนด์ขาขึ้น

ถ้าจุดเริ่มของ Oscillatorขึ้นไปทางขวา ต้องเป็น 70 ขึ้นไป
ถ้าเป็น Stochastic ต้อง 80 ขึ้นไป

กรณีเทรนด์ขาลง

RSI ต่ำกว่า 30
ถ้าเป็น Stochastic ต้องต่ำกว่า20

ในกรณีที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขนี้ ก็ไม่สามารถกล่าวได้ว่าจะมีการเกิด Divergence ถึงแม้แท่งเทียนกับ Oscillator จะเกิดการกลับตัว (Divergence)

ตารางสัญญาณการกลับตัว (Divergences)

TypeBlasPriceOscillatorDescriptionExample
RegularBullishLower LowHigher LowIndicates underlying strength. Bears are exhausted. Warning of possible trend direction chage from downtrend to uptrend.
1 highschool 07 img01
BearishLower LowHigher LowIndicates underlying weakness. Bulls are exhausted. Warning of possible trend direction chage from uptrend to downtrend.
1 highschool 07 img02
HiddenBullishHigher LowLower LowIndicates underlying strength. Good entry or re-entry. Occurs during retacements in an uptrend. Nice to see during price retest of previous lows. “Buy the dips”
1 highschool 07 img03
BearishLower LowHigher LowIndicates underlying weakness. Found during retracements in a downtrend. Nice to see during price retests of previous highs. “Sell the rallies”
1 highschool 07 img04

สรุป: สัญญาณการกลับตัว (Divergence)

สุดท้ายขอสรุปสิ่งที่เราได้เรียนรู้ในบทความนี้
Divergence ของ Oscillator แบ่งออกเป็น 2 ประเภท1. Regular Divergence ⇒ เครื่องหมายการกลับตัวของราคา
2. Hidden Divergence ⇒ เครื่องหมายแนวโน้มต่อเนื่องOscillator ที่ใช้ Oscillator Divergence มี MACD, RSI, Stochastic และอื่นๆ
ข้อควรระวังเมื่อทำการซื้อขายโดยใช้ Divergence 3 อย่าง มีดังนี้
– หากเป็นการขายระยะสั้นให้มุ่งไปที่แนวรับหากเป็นการซื้อที่แนวต้าน
– Divergence ไม่ใช่สัญญาณเข้า
– รอสัญญาณเข้ารูปแบบแท่งเทียนกับการเคลื่อนไหวราคาและเข้าการใช้ Hidden Divergence และเมื่อคาดเป็นเทรนด์ต่อเนื่องและเข้าเทรนด์ มีข้อควรระวัง 3 อย่างต่อไปนี้

– Oscillator ขึ้นไปมากหรือไปถึงลงไปมากและเข้าเทรนด์
– Hidden Divergence ไม่ใช่สัญญาณเข้า
– รอสัญญาณเข้ารูปแบบแท่งเทียนหรือการเคลื่อนไหวราคาและลงทะเบียน
หากไม่เพิกเฉยข้อควรระวังนี้แล้วทำการซื้อขายจะมีการพลาดในการเข้าได้แต่ไม่มีความจำเป็นที่จะกังวล
ถ้าเงื่อนไขไม่ถูกต้อง ถึงแม้จะไม่เข้าซื้อขายก็สามารถทำได้
ครั้งต่อไปโอกาสที่จะชนะอย่างปลอดภัย มีโอกาสเข้าสูงทำการซื้อขาย

ถึงแม้ว่าสัญญาณซื้อขาย Divergence จะสูงแค่ไหน ถ้ามีการเข้าตาม Divergence ทั้งหมด ก็เเพ้อย่างราบคาบ

ลองสังเกตข้อควรระวังที่ได้อธิบายไว้ในบทความนี้และลองทำการซื้อขายดู